วันพุธที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2553

AI613_week6

AI613_week6_14/12/10

E-Business and E-Commerce

B2B: Business to Business คือ การทำธุรกรรมระหว่างธุรกิจด้วยกัน เช่น การสั่งสินค้าของร้านซีเมนต์ไทยโฮมมาร์ท ด้วยระบบอินเทอร์เนตไปยังบริษัท ซีเมนต์ไทยจำกัด (www.cementhaionline.com)
B2G: Business to Government คือ การทำธุรกรรมของธุรกิจต่อหน่วยงานรัฐบาล เช่น การเสนอขายสินค้าหรือบริการแก่ภาครัฐผ่านเว็บไซต์ บริษัท พันธวนิช จำกัด (www.pantavanij.com)
B2C: Business to Customers คือ การทำธุรกรรมของธุรกิจต่อผู้บริโภคทั่วไป เช่น  www.amazon.com www.jobsdb.com
E-Commerce
              การดำเนินธรุกิจการค้าหรือการซื้อขายบนระบบเครือข่ายอินเทอร์เนต โดยผู้ซื้อ (Customer) สามารถดำเนินการ เลือกสินค้า คำนวนเงิน ตัดสินใจซื้อสินค้า โดยใช้วงเงินในบัตรเครดิต ได้โดยอัตโนมัติ ผู้ขาย (Business) สามารถนำเสนอสินค้า ตรวจสอบวงเงินบัตรเครดิตของลูกค้า รับเงินชำระค่าสินค้า ตัดสินค้าจากคลังสินค้า และประสานงานไปยังผู้จัดส่งสินค้า โดยอัตโนมัติ กระบวนการดังกล่าวจะดำเนินการเสร็จสิ้นบนระบบเครือข่าย Internet
ข้อดี
1.เปิดดำเนินการค้า 24 ชั่วโมง
2.ดำเนินการค้าอย่างไร้พรมแดนทั่วโลก
3.ใช้งบประมาณลงทุนน้อย
4.ตัดปัญหาด้านการเดินทาง
5.ง่ายต่อการประชาสัมพัธ์โดย สามารถประชาสัมพันธ์ได้ทั่วโลก
ข้อเสีย
1.ต้องมีระบบรักษาความปลอดภัยที่มีประสิทธิภาพ
2.ประเทศของผู้ซื้อและผู้ขายจำเป็นต้องมีกฎหมายรองรับอย่างมีประสิทธิภาพ
3.การดำเนินการด้านภาษีต้องชัดเจน
4.ผู้ซื้อและผู้ขายจำเป็นต้องมีความรู้พื้นฐานในเทคโนโลยีอินเทอร์เนต

API: Application Programming Interface
Ex. iPhone

Benefit of E-commerce
-          ช่วยเพิ่มรายได้ให้แก่องค์กร เพราะเป็นการเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่าย
ข้อจำกัด
-          ทางด้านเทคโนโลยี browser มีหลากหลายและอาจยังไม่ปลอดภัย
-          Security: ฐานข้อมูลของบัตรเครดิต

Social commerce (Social shopping)
                คือ การที่เราจะซื้อของ แล้วเข้าไปหาข้อมูลใน Internet ก่อน, search engine
ตัวอย่าง E-commerce ในไทย เช่น Web I love shopping
ข้อดี-ข้อเสีย ของร้านที่มีอยู่และมีขายในออนไลน์ด้วย
ข้อดี- ไม่ต้อง Stock ของเยอะ เพราะเราจะรู้ order ก่อน เมื่อลูกค้าสั่งของแล้วค่อยให้ไปรับที่หน้าร้าน
IT Hype Cycle
·        Cloud Computing คือวิธีการประมวลผลที่อิงกับความต้องการของผู้ใช้ โดยผู้ใช้สามารถระบุความต้องการไปยังซอฟต์แวร์ของระบบCloud computing จากนั้นซอฟต์แวร์จะร้องขอให้ระบบจัดสรรทรัพยากรและบริการให้ตรงกับความต้อง การผู้ใช้ ทั้งนี้ระบบสามารถเพิ่มและลดจำนวนของทรัพยากร รวมถึงเสนอบริการให้พอเหมาะกับความต้องการของผู้ใช้ได้ตลอดเวลา โดยที่ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องทราบเลยว่าการทำงานหรือเหตุการณ์เบื้องหลังเป็น เช่นไร
·        Web 2.0 เว็บ 2.0 นั้นเป็นคำที่นิยามขึ้นโดยทิม โอไรล์ลีย์ ภายหลังจากงานประชุมโอไรล์ลีย์มีเดีย เว็บ 2.0 ที่จัดขึ้นในปี 2547 โดยคำว่าเว็บ 2.0 นั้นไม่ได้กล่าวถึงการพัฒนาทางด้านเทคนิคแต่อย่างใดโดยเว็บ 2.0 จะต้องมีคุณลักษณะหลักๆ ดังนี้ 1.) "Network as platform" คือจะต้องให้บริการหรือสามารถใช้งานผ่านทาง "web browser" ได้ 2.) ผู้ใช้งานที่เป็นเจ้าของข้อมูลบน "Website" นั้น สามารถดำเนินการใดๆ ก็ได้กับข้อมูลนั้น 3.) ให้ความสำคัญกับผู้เข้าชมเว็บไซต์ โดยที่ผู้เข้าชมเว็บไซต์จะมีส่วนร่วมต่อเว็บไซต์มากขึ้น ไม่ใช่แค่เข้ามาชมเว็บไซต์ที่เจ้าของเว็บจัดทำขึ้นเท่านั้น ผู้เข้าชมเว็บไซต์สามารถสร้าง Content ของเว็บไซต์ขึ้นมาได้เองหรือสามารถ tag content ของเว็บไซต์ (คล้ายๆการกำหนด keyword ที่เกี่ยวข้องกับ content โดยผู้เข้าชมเว็บไซต์เป็นผู้กำหนดขึ้น) ตัวอย่างเช่น Digg, Flickr, Youtube , Wiki 4.) Web 2.0 application จะมีคุณสมบัติที่เรียกว่า RIA (Rich Internet Application) นั่นคือ Web 2.0 application จะมี user interface ที่ดียิ่งขึ้น เช่น คุณสมบัติ drag & drop ซึ่งเราใช้กับใน desktop application ทั่วๆไปก็สามารถใช้ได้บนเว็บเช่นกัน โดยเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องในการสร้าง RIA เช่น AJAX, Flash
·        Health Informatics หรือเรียกว่า health care informatics, healthcare informatics, medical informatics, biomedical informatics คือการนำข้อมูลที่เกี่ยวกับทางด้านสุขภาพมาผนวกกับเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อนำมาใช้ในการจัดการทรัพยากร, เครื่องใช้ต่างๆ และนำมาพัฒนาปรับปรุงวิธีการได้มา, การเก็บรักษาและการใช้ประโยชน์จากข้อมูลที่เกี่ยวสุขภาพHealth informatics นี้ถูกนำไปพัฒนาใช้งานในหลายด้านไม่ว่าจะเป็น Nursing, Clinical care, Dentistry, Pharmacy, Public health หรือ (Bio) Medical research
ปัญจรัตน์ อุทัยพัฒน์ 5202113196

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น